BWG แจกใหญ่คืนกำไรผู้แปลงสภาพ BWG-W3 ให้สิทธิรับปันผล 0.04 บ./หุ้น แถม BWG-W4 ฟรีสัดส่วน 6:1

                                       

              บอร์ด BWG ประชุม 18 มีนาคม 2559  ไฟเขียวจ่ายปันผล ประจำปี 2558 อัตรา 0.04 บาท/หุ้น พร้อมอนุมัติออกBWG-W4 อีก 575,716,774หน่วย แจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ใช้สิทธิ์แปลงสภาพ BWG-W3 รอบ 31 มีนาคม 2559 สัดส่วน 6:1 ปิดท้ายเพิ่มทุนแบบ General Mandate จำนวน 319.89 ล้านหุ้น หลังมติเดิมในเดือนมีนาคม 2558 หมดอายุ “สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ”เผยเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มความแข็งแกร่งให้ฐานเงินทุนรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต หลังพบนโยบายรัฐหนุนธุรกิจเติบโตชัดเจนทั้งธุรกิจหลักและพลังงานทดแทน

          นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรทั้งฝังกลบ เผาทำลาย และนำกลับมาใช้ใหม่รายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2559 ในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2559 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิและจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี2558 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท โดยให้สิทธิผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 3 หรือ BWG-W3 ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพซื้อหุ้นสามัญในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนวัน ปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ทั้งนี้ หากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ เสนอ กำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล คือ วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 27พฤษภาคม 2559

             พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 (BWG-W4) จำนวน 575,716,774 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 6 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย และกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 3 บาท ต่อหุ้น ซึ่ง BWG-W4  กำหนดให้มีอายุ  3 ปีนับแต่วันที่เสนอขาย และมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้กำหนดให้ผู้ถือ BWG-W3 ของบริษัทฯ ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิในการจัดสรร BWG-W4 จะต้องใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในครั้งที่ 3 คือรอบวันที่ 31 มีนาคม 2559 และมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันสุดท้ายก่อนวันที่บริษัทฯ เริ่มขึ้นเครื่องหมาย XW

            นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 1,079,625,000 บาท เป็น 962,425,572.25 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จัดสรรจำนวน 468,797,711 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 962,425, 572.25 บาท เป็น 1,186,326,674.25 บาทโดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 895,604,408 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ฯ ครั้งที่ 4 (BWG-W4) จำนวน 575,716,774 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจำนวน 319,887,634 หุ้น จัดสรร แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด หลังจากที่มติเดิมที่อนุมัติไว้ในเดือนมีนาคม 2558 ได้หมดอายุลง ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 เพื่อขออนุมัติมติดังกล่าว ในวันที่ 29 เมษายน 2559

              นายสุวัฒน์กล่าวอีกว่า การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อใช้ในการขยายกิจการในอนาคต และเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวประการสำคัญจะช่วยรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาหลังจากนี้ได้อย่างคล่องตัว หลังจากพบว่ารัฐบาลมีนโยบายหลายประการที่เข้ามาดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ทั้งธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจพลังงานทดแทนจากกากอุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอนาคต

ข้อมูลบริษัท บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) 

                       บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจการบริหารและจัดการสิ่งปฏิกูลฯอย่างครบวงจร (One Stop Service) โดยธุรกิจหลักที่ให้บริการมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการ คือ การกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล และวิธีการฝังกลบอย่างปลอดภัย (รวมทั้งการฝังกลบอย่างปลอดภัยเมื่อทำการปรับเสถียร หรือทำให้เป็นก้อนแข็งแล้ว) โดยมีศูนย์บริหารและจัดการฯ อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในศูนย์บริหารและจัดการฯ บริษัทยังสามารถให้บริการบำบัด (Treatment) สำหรับการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางเคมีกายภาพด้วย           

                      ในปี 2550 บริษัทได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติมในการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) ด้วยการทำเชื้อเพลิงผสม (Fuel Blending) นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การบำบัด (Treatment) ด้วยวิธีเผาทำลายในเตาเผาเฉพาะสำหรับของเสียอันตราย ผ่านบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นอกจากนั้น บริษัทมีรายได้ค่าบริการจากการจัดการสิ่งปฏิกูลฯ ด้วยวิธีการอื่นซึ่งบริษัทฯ มิได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเองอีกส่วนหนึ่งด้วย อาทิ การส่งไปเป็นวัตถุดิบทดแทนหรือเผาทำลายร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ และการส่งไปยังโรงงาน เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ (Recycle) เป็นต้น