“ไออีซี” โหมตลาดพลังงานทดแทน ขยายโรงไฟฟ้าพลังจากงานขยะ หวังโกยรายได้ปี 59 ประมาณ 1,700 ล้านบาท

ไออีซี ผู้นำทางธุรกิจด้านพลังงานทดแทน บุกตลาดปี 59 อย่างหนัก ดึง “ยูนานวอเตอร์ อินเวสเมนต์” จากประเทศฮ่องกง ร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หลังเข้าเทคโอเวอร์โรงไฟฟ้าขยะแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ที่มีมูลค่ากว่า  2,500 ล้านบาท ทำให้ปี 59 “ไออีซี” ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดพลังงานทดแทน และผลิตเม็ดพลาสติกปนเปื้อนจากขยะ ด้วยโครงการถึง 11 แห่ง พร้อมเปิดตัวผู้บริหารชุดใหม่ทำให้ “ไออีซี” คาดการณ์ปี 59 จะกวาดรายได้กว่า 1,700 ล้านบาท

 

ดร.ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำทางธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ที่มีผลงานที่ผ่านมามากมายทั้ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ และโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล อีกทั้งยังดำเนินการทางด้านการสื่อสาร และสารสนเทศมาอย่างต่อเนื่องอย่างยาวนาน และที่ผ่านมาบริษัทฯ ร่วมลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะของบริษัทฯ ดำเนินงานโครงการผลิตไฟฟ้าชื่อ บริษัท จีเดค จำกัดโดยสร้างโรงงานกำจัดขยะชุมชนและแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า กำลังการขายกระแสไฟฟ้าปัจจุบันอยู่ที่ 4.3 เมกกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะเพิ่มกำลังได้เป็น 5.8 เมกกะวัตต์ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ โดยบริษัทฯ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งแรกที่ใช้เทคโนโลยี Ash- Melting Gasification ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศฟินแลนด์ และสหราชอาณาจักร

 

ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกำลังการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องดังกล่าว จึงทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะของ IEC เป็นที่สนใจของสถาบันการลงทุนต่างๆ จากการพิจารณาอย่างดี IEC จึงได้เลือก บริษัท ยูนานวอเตอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมทุนทั้งนี้ได้ลงนามกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ มกราคม 2559 ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ บริษัท ยูนานวอเตอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงโดยมีผู้ถือหุ้นหลักที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนสองแห่งคือ Yunnan Metropolitan Construction Investment และ Beijing Origin Water และเพื่อเป็นการรุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะในประเทศไทย ในเดือนพฤศจิกายน 2558 บริษัท ยูนานวอเติอร์ อินเวสเมนต์ ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าขยะแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ในสัดส่วนทั้งหมดซึ่งมีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ 

 

ปัจจุบัน IEC มีโครงการที่รับรู้รายได้แล้ว 7 โครงการ อันได้แก่ โรงไฟฟ้พลังงนแสงอทิตย์แม่ทา 1,2 จ.ลำพูน มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 2.638  MW โดยโครงการนี้ได้รับกรสนับสนุนจกภครัฐโดยได้รับส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้ (Adder) มูลค่า 6.50 บทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวล 10 ปี และมีอยุโครงกร 25 ปี โรงไฟฟ้พลังงนแสงอทิตย์แม่มาลัย จ.เชียงใหม่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 2.379 MW มีกำลังไฟฟ้รับซื้อ 1.92 MW โครงกรฯ ได้รับกรสนับสนุนจกภครัฐโดยได้รับส่วนเพิ่มค่ไฟฟ้(Adder) มูลค่ 8 บทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวล 10 ปี และมีอยุโครงกร 25 ปี และ โรงไฟฟ้พลังงนแสงอทิตย์แม่ระมาด จ.ตาก มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 6.3 MW มีกำลังไฟฟ้รับซื้อ 5.25 MW โครงกรฯ ได้รับกรสนับสนุนจกภครัฐโดยได้รับส่วนเพิ่มค่ไฟฟ้ (Adder) มูลค่6.50 บทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวล 10 ปี และมีอยุโครงกร 25 ปี

 

และโครงการ ไออีซี กรีน เอ็นเนอร์ยี่ ที่เชี่ยวชญเฉพะด้นระบบกรจัดการขยะส่วนหน้ประกอบด้วย กรบดย่อยขยะด้วยเครื่อง Shredder ระบบสยพนลเลียงขยะ กรลดควมชื้นขยะด้วย Rotary Dryer นอกจกนั้น ยังได้พัฒนระบบกรจัดกรขยะอย่างครบวงจรเพิ่มได้แก่ น้ำหมักชีวภพ ซึ่งผลิตน้ำหมักชีวภพจกขยะอินทรีย์ (EM) ให้ได้น้ำหมักชีวภพสมรรถนะสูงโดยระบบสามารถผลิตหัวเชื้อน้ำหมักชีวภ เพื่อเป็นวัตถุดิบตั้งต้นให้แก่ชุดผลิตน้ำหมักซึ่งจะทำงนอย่งต่อเนื่องและมีผลผลิตเป็นน้ำหมักชีวภพปริมตร 2,000 ลิตร ทุก 15 วัน

 

นอกจากนี้ยังมี โครงการโรงไฟฟ้าขยะจีเดค ซึ่งได้ร่วมทุนกับ EGCOในกรดเนินงนโครงกรผลิตไฟฟ้กพลังงนขยะ กำลังกรผลิตติดตั้ง 6.7 MW ดใหญ่ จ.สงขล และโครงกรโรงไฟฟ้ไบโอแก๊ส จ.กำแพงเพชร บ่อก๊าซชีวภาพในทาการผลิต หัวอาหาร (feed stock)”โดยใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตและนำจุลินทรีย์มาย่อยสลาย โดยสามารถผลิตก๊าซชีวภาพจากบ่อหมักได้ถึง 60,000 ลูกบาศก์เมตร (Cubic meter) ต่อวัน ซึ่งเพียงพอการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 6 MW ต่อชั่วโมง และ โครงการไบโอแก๊ส สุพรรณบุรี โรงไฟฟ้ไบโอแก๊สจน้ำเสีย (Vinasse) ซึ่งเป็นผลผลิตพลอยได้จกกรผลิตเอทนอลมีขนดกำลังกรผลิต10.6 MW โครงกร เอทนอล ระยอง ผลิตเอทนอลในนม บริษัท ไออีซี บิซิเนส พร์ทเนอร์ส จำกัด โดยมีกำลังกรผลิวันละ 170,000 ลิตร

 

โรงไฟฟ้าชีวมวลจังหวัดสระแก้ว 1 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 MW โครงกรผลิตเม็ดพลสติกจกพลสติกปนเปื้อน จ.ระยอง ขนาดกลังผลิตวันละไม่น้อยกว่า 120 ตัน เพื่อการส่งออก โครงกรผลิตเม็ดพลสติกจกพลสติกปนเปื้อน หาดใหญ่ ขนาดกลังผลิตวันละไม่น้อยกว่า 60 ตัน 

  

ดร.ภูษณ กล่าวต่ออีกไปว่า นอกจากนั้นยังมีอีก 4 โครงการที่อยู่ระหว่างดเนินการที่จะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2559 นี้ อาทิเช่น โครงการโรงไฟฟ้าโอแก๊ส จ.แพงเพชร ด้วยกำลังการผลิตขนาด 5.25 MW และโครงการโรงไฟฟ้าโอแก๊ส จ.สุพรรณบุรี ด้วยกำลังการผลิตขนาด 10.6MW โรงไฟฟ้าชีวมวลจังหวัดสระแก้ว แห่งที่ 2 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 8 MW (สัญญา 7 ปีกับ PEAและ โครงกรผลิตเม็ดพลสติกจกพลสติกปนเปื้อนเพื่อการส่งออก ที่หาดใหญ่ ขนาดกลังผลิตวันละไม่น้อยกว่า 60 ตัน ซึ่งถ้าประเมินมูลค่ากิจการจากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) ดังกล่าวพบว่าในปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่ากิจการมากกว่า 7,000 ล้านบาท 

 

ปี 2559 IEC มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านพลังงานทดแทนโดยบริษัทฯจะลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และกำแพงเพชร โครงการโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โครงการขยะเชื้อเพลิงจากบ่อขยะในหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชลบุรี พัทลุง สงขลา โดยการร่วมทุนของบริษัท ยูนานวอเตอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด (มหาชน) นั้น ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ลดภาระการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และคาดว่าในปี 2559 บริษัทฯ จะมีรายได้ประมาณ 1,700 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตจากนี้ไป 5 ปีข้างหน้าไม่ต่ำกว่า 20-25% ต่อปี โดยคาดการณ์ในปี 2560 จะมีรายได้ประมาณ 2,210 ล้านบาท ในปี 2561 มีรายได้ประมาณ 2,542 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้ประมาณ 3,051 ล้านบาท และในปี 2563 มีรายได้ประมาณ 3,661 ล้านบาท ดร.ภูษณ กล่าวสรุปในตอนท้าย

 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ITE ร่วมกับ SCG ฉลองการทำงานครบ 600,000 ชั่วโมง โดยปราศจากอุบัติเหตุ มั่นใจด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

FER ดึงตัวผู้บริหารหญิงคนเก่ง จาก PSTC ลุยธุรกิจพลังงาน “ชุตินันท์ กิจสำเร็จ” นั่งบอร์ดและเป็นผู้บริหารรุกธุรกิจด้านพลังงานเต็มตัว

หุ้นไอพีโอ ASN สุดฮอต! จองหมดตั้งแต่วันแรก คาดนักลงทุนพลาดหวังรอเก็บเพิ่มในกระดาน